รพ.สัตว์โอะไดจินิ | เปิด 24 ชั่วโมง

หากมีพื้นที่จำกัดแล้ว เราควรเลือกเลี้ยงหมา อย่างไรดี?


        เชื่อว่าในปัจจุบันหลายๆ คนคงจะประสบปัญหากับการอยากเลี้ยงน้องหมา แต่มีพื้นที่จำกัดกันใช่มั้ยคะ รับรองได้เลยว่ามีไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะตอนนี้เทรนด์การใช้ชีวิตกลางเมืองกำลังมาเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นคอนโด  อพาร์ทเมนต์  ทาวน์เฮ้าส์ หรือบ้านดี่ยวเล็กๆ  ที่แม้จะสะดวกสบาย แต่ต้องแลกกับพื้นที่ที่น้อยลง แต่นี่ล่ะค่ะปัญหาใหญ่ของคนรักน้องหมาอย่างเราๆ อยากจะมีน้องหมาคู่ใจมาเป็นเพื่อนคลายเหงา แต่พื้นที่ที่มีก็ไม่รู้จะเพียงพอกับการเลี้ยงน้องหมาหรือเปล่า บอกได้เลยค่ะ พอแน่นอน แต่อาจจะต้องเลือกน้องหมาให้เหมาะกับพื้นที่อาศัยของเราหน่อยนะคะ ไปดูกันดีกว่าว่าปัญหานี้จะหมดไปได้อย่างไร


ก่อนที่จะตัดสินใจเลี้ยง
        ก่อนที่เราจะเลี้ยงน้องหมาสักหนึ่งตัว เราต้องแน่ใจแล้วนะคะ ว่าเราสามารถจะเลี้ยงน้องเค้าได้จริงๆ ไม่ว่าเลี้ยงที่ไหนๆ เหตุผลข้อนี้ ก็ถือว่าสำคัญที่สุด เพราะการเลี้ยงน้องหมาถือเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียวนะคะ เราต้องคอยหมั่นคอยดูแลเค้าตลอดเวลานะคะ ไม่ใช่เลี้ยงแล้วทิ้งขว้างเค้า เพราะน้องหมาก็มีชิวิตจิตใจนะคะ บอกเลยข้อนี้สำคัญสุดจริงๆ และในเมื่อเราตัดสินใจดีแล้ว คำถามต่อไปที่เราควรจะตัดสินใจสำหรับการเลี้ยงหมาในที่เล็กๆ คือ หากเป็นคอนโด คอนโดแห่งนั้นอนุญาตให้เราเลี้ยงน้องหมาได้หรือเปล่าน้า? ถ้าไม่ได้ ก็ปิดโปรเจคการเลี้ยงไปเลยค่ะ ไม่ควรจะมาเลี้ยงหลบๆ ซ่อนๆ นะคะ ไม่สบายตัวแถมไม่สบายใจอีกต่างหาก  แต่ถ้าทางคอนโดอนุญาตเตรียมตัวเตรียมใจเตรียมทุนสำหรับการมีน้องหมาที่น่ารักๆ ไว้ในครอบครองได้เลยค่ะ ส่วนที่อยู่อาศัยแบบอื่นๆ อย่างเช่น ทาวน์เฮ้าส์ หรือบ้านดี่ยวเล็กๆ ไม่น่าจะมีปัญหาในข้อนี้สักเท่าไร น่าจะสามารถหาน้องหมามาเลี้ยงได้เลยนะคะ 


เลี้ยงน้องหมาพันธุ์อะไรดี?
        คำถามยอดฮิตที่จะตามมา คือ ควรจะเลี้ยงน้องหมาพันธุ์อะไรดี  พันธุ์เล็กหรือพันธุ์ใหญ่ แล้วแต่ละพันธุ์แตกต่างกันอย่างไร วันนี้จะขอยกตัวอย่างน้องหมาพันธุ์ที่เป็นที่นิยม ในการเลี้ยงและเป็นพันธุ์ที่สามารถเลี้ยงได้ในพื้นที่เล็กๆ ไม่เป็นปัญหาอย่างแน่นอนค่ะ โดยคุณสมบัติที่ควรจะพิจารณาในการเลือกที่จะเลี้ยง มีดังต่อไปนี้เลยคะ 
  1. พื้นที่อยู่อาศัย เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าพื้นที่ขนาดเล็ก น้องหมาที่เลี้ยงก็ควรจะเป็นหมาพันธุ์ขนาดเล็กตามไปด้วย แต่ก็ไม่แน่เสมอไปหรอกนะคะ เพราะมีน้องหมาขนาดใหญ่บางพันธุ์ก็สามารถเลี้ยงในที่ขนาดเล็กๆ ได้ไม่ยากเลย
  2. นิสัย เจ้านิสัยก็เป็นส่วนสำคัญในการเลี้ยงที่มีพื้นที่จำกัด น้องหมาที่เหมาะกับการเลี้ยงในพื้นที่แบบนี้มักจะเป็นน้องหมาที่ค่อนข้างรักสงบ ไม่เห่ามากเกินความเป็น และควรจะเป็นน้องหมาที่สามารถฝึกฝนได้ง่าย เพราะด้วยพื้นที่ขนาดเล็ก หากเราสามารถฝึกให้เค้ารู้จักที่ทางต่างๆ ได้แล้วล่ะก็ รับรองไม่มีปัญหา ห้องหรือบ้านเละเทะแน่นอนค่ะ
  3. การออกกำลังกาย ด้วยที่ทางที่ค่อนข้างน้อย รวมไปถึงเวลาของเจ้าของที่อาจจะมีจำกัดตามประสาคนในเมือง น้องหมาที่เหมาะควรจะเป็นพันธุ์ที่ใช้พลังงานค่อนข้างน้อย และต้องการการออกกำลังกายไม่มากนักตามไปด้วย แค่เรามีเวลาพาน้องออกไปเดินเล่นหรือวิ่งเล่นบ้าง ก็เพียงพอกับร่างกายของน้องเค้าแล้วค่ะ
  4. ความสะอาด ในที่นี้หมายถึงที่ตัวน้องหมาของเรานะคะ น้องหมาบางพันธุ์มีนิสัยรักความสะอาดในตัวของเค้าเอง เหมาะอย่างยิ่งกับการเลี้ยงในพื้นที่เล็กๆ แบบนี้ ส่วนใหญ่น้องหมาที่จะแนะนำมักเป็นน้องหมาพันธุ์ขนสั้นที่ไม่ต้องยุ่งยากในการดูแลความสะอาดมากมายนัก หรือหากเจ้าของมีเวลาและสามารถดูแลได้ อยากจะเลี้ยงน้องหมาพันธุ์ขนยาวน่ารักๆ ไว้ก็ไม่มีปัญหาค่ะ 
        หลังจากที่ดูคุณสมบัติหลักๆ กันไปแล้ว เรามาดูน้องหมาพันธุ์ที่นิยม และเหมาะสมสำหรับการเลี้ยงในบ้านที่มีพื้นที่น้อยของเรากันดีกว่าค่ะ 
   


ชิวาว่า  ถือเป็นหนึ่งในพันธุ์ที่เป็นที่นิยมมากสำหรับการเลี้ยงภายในพื้นที่เล็กๆ เพราะขนาดตัวของเค้านี่ล่ะ นอกจากไม่ต้องใช้พื้นที่มากแล้ว ยังพกพาไปไหนได้สะดวกอีกด้วยค่ะ เป็นน้องหมาพันธุ์เล็กน่ารักเลี้ยงไม่ยาก แต่อย่าตามใจกันมากไปนะคะ รับรองมีเหลิงแล้วจะพาลยุ่งไปกันใหญ่ แต่สิ่งที่ควรจะรู้อีกอย่างหนึ่ง ก็คือ ถึงแม้ว่าน้องชิวาว่าของเราจะตัวเล็ก แต่เป็นน้องหมาที่พลังงานค่อนข้างสูง ถ้าคิดจะเลี้ยงแล้วอาจจะต้องหมั่นพาเค้าไปออกกำลังกายบ่อยๆ ซักหน่อย  ส่วนจะเลี้ยงเป็นพันธุ์ขนสั้นหรือขนยาว อันนี้ตามแต่เจ้าของเลยค่ะ ถ้ามีเวลาหน่อยอยากเลี้ยงพันธุ์ขนยาวก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แค่หมั่นคอยดูแลความสะอาดให้ขนสวยเงางามอยู่เสมอนะคะ


เฟรนซ์ บลูด็อก และ น้องปั๊ก น้องหมาจอมขี้เกียจทั้งสองพันธุ์ นิสัยเรียบร้อย รักความสงบ แถมยังรักเด็กอีกด้วยค่ะ เป็นพวกนิ่งเป็นหลับ ขยับเป็นกิน (ขอเตือนว่าอย่าตามใจกันมากไปนะคะ โรคอ้วนจะถามหา และมีผลต่อสุขภาพ เช่น การหายใจลำบากตามมาได้ จากที่เป็นน้องหมาพันธุ์หน้าสั้นนั่นเองค่ะ) รับรองนอนนิ่ง นั่งนิ่งไม่กวนใจ ไม่หนีไปไหนแน่นอนค่ะ แต่สิ่งที่ต้องระวังซักหน่อย ก็คือ การที่เป็นน้องหมาพันธุ์หน้าสั้น ที่อาจจะเหนื่อยง่าย  หายใจไม่ทันเอาได้  นอกจากปัญหาในระบบทางเดินหายใจแล้ว อย่าลืมที่เอาใจใส่ในเรื่องสุขภาพอื่นๆ ด้วยนะคะ อย่างเช่น เรื่องโรคผิวหนัง  และเรื่องของตาค่ะ แต่ถ้าใครยังไม่ถูกใจในขนาดที่เล็กไป อาจจะขยับไปเลือกเจ้าอิงลิชบลูกด็อกทดแทนกันได้นะคะ ทั้งนิสัยใจคอพื้นที่การเลี้ยง ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่เลยค่ะ ส่วนการดูและความสะอาดก็ไม่ยากอีกเช่นกัน เพราะเป็นน้องหมาพันธุ์ขนสั้น ง่ายต่อการดูแลหายห่วง แต่ระวังเรื่องขนร่วง กลิ่น และโรคผิวหนังเป็นพิเศษหน่อยนะคะ


        ใครว่าพื้นที่เล็กๆ จะเลี้ยงน้องหมาที่ขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยไม่ได้ พันธุ์ที่ติดโพลในการเลี้ยงเลย ได้แก่ น้องหมาพันธุ์เกรยฮาวน์  แค่ชื่อก็รู้ว่าเป็นนักวิ่ง แต่รับรองว่าถ้าอยู่ภายในห้องเค้าจะนอนเงียบๆ สามารถอยู่ในที่แคบๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา นั่งนอนบนเตียงหรือโซฟาได้อย่างสบายๆ แถมยังไม่เห่าถ้าไม่จำเป็นอีกด้วยนะคะ แต่ด้วยสายพันธุ์ของเค้าต้องไม่ลืมที่จะพาเค้าไปวิ่งหรือเดินออกกำลังกายทุกวันด้วยนะคะ  แต่ถ้าชอบพันธุ์ประมาณนี้แล้ว แต่ติดที่ขนาดตัวใหญ่ซักหน่อย ก็อาจเลือกน้องหมาตระกูลเดียวกันแต่ขนาดเล็กกว่าได้ อย่างเจ้า วิปเพต แทนกันก็ได้นะคะ


        มาถึงน้องหมาขนาดใหญ่มากที่จะแนะนำ ที่ดูยังไหงยังไงก็ไม่น่าจะอยู่ในพื้นที่เล็กๆ ได้ อย่างเจ้าเกรทเดน  เซนต์เบอร์นาร์ด  หรือเจ้าเยอรมัน เชพเพิร์ด  น้องหมาพันธุ์เหล่านี้อาจจะต้องเขยิบขึ้นมาสำหรับเจ้าของที่มีห้องที่ใหญ่ขึ้นมาอีกซักหน่อย ก็จะเพียงพอต่อขนาดตัวเค้าแล้วค่ะ  แต่รับรองว่าไม่ถึงกับต้องใหญ่มากก็เลี้ยงได้ เพราะเป็นหมาพันธุ์ที่ค่อนข้างรักสงบ ไม่เห่าหอนถ้าไม่จำเป็น แต่อาจจะต้องฝึกฝนสักหน่อยให้เค้าเชื่อฟังคำสั่ง และรู้จักที่ทางจะได้ไม่เป็นปัญหาขึ้นมาภายหลังค่ะ


        สำหรับน้องหมาพันธุ์เล็กอย่างเจ้ายอร์คเชียร์เทอร์เรีย หรือ มอลทีส ก็เหมาะสำหรับการเลี้ยงไม่แพ้กันค่ะ เพราะนอกจากหน้าตาจะน่ารัก และขนาดที่พอเหมาะแล้ว นิสัยของน้องหมาทั้งสองพันธุ์นี้ก็น่ารักไม่แพ้กันตามไปด้วยค่ะ รวมทั้งความสะอาดในตัวน้องก็ง่ายต่อการดูแล เพราะถึงแม้จะเป็นน้องหมาพันธุ์ที่ขนไม่ถึงกับสั้น แต่ก็เป็นขนที่ไม่ร่วงเยอะจนเป็นปัญหาแน่นอนค่ะ  เพราะเป็นขนยาวชั้นเดียว ถ้าหมั่นคอยหวีหรือดูและความสะอาด รับรองห้องหรือบ้านของเราไม่มีขนฟุ้งกระจายให้รำคาญใจคะ 
        พันธุ์หมาที่ยกตัวอย่างอาจะเป็นแค่บางพันธุ์ที่นิยมกันแพร่หลายในประเทศไทย อาจจะยังมีพันธุ์อื่นๆ ที่สามารถเลี้ยงได้แต่ไม่ได้กล่าวถึง หากเจ้าของคนไหนสนใจพันธุ์อื่นๆ เป็นพิเศษ สามารถขอคำปรึกษาหมอได้ตลอดเลยนะคะ ผ่านทางเฟสบุ๊คของโรงพยาบาลก็ได้เลยค่ะ 


เลี้ยงน้องหมาอย่างไรให้เค้ามีความสุข?
  1. ให้ความรักดูแลเอาใจใส่ ข้อนี้ถือเป็นข้อสำคัญนะคะ ไม่ว่าจะเลี้ยงที่ไหนก็ตามจะพื้นที่เล็กหรือใหญ่ เจ้าของทุกคนก็ควรจะมีข้อนี้ ถึงแม้จะเลี้ยงหมาพันธุ์ที่เลี้ยงง่ายก็ตาม ก็ไม่ควรจะทิ้งเค้าให้อยู่คนเดียวอยู่บ่อยๆ  หมั่นดูแลในทุกๆ เรื่องของน้องหมา ทั้งเรื่องอาหาร  สุขภาพ  ความสะอาด เป็นต้น  รวมถึงเจ้าของทุกคนควรมีเวลาทำกิจกรรมร่วมกันกับน้องหมา หรือพาไปออกกำลังกายทุกวัน (ข้อนี้แนะนำว่าควรทำเป็นประจำนะคะ) เพราะหากเราปล่อยน้องหมาของเราไว้เพียงลำพังบ่อยๆ ระวังโรคซึมเศร้าจะถามหาน้องหมาของเราได้นะคะ
  2. รับผิดชอบต่อส่วนรวม เนื่องด้วยการเลี้ยงของเราอยู่ในพื้นที่เล็ก หรือเป็นพื้นที่ภายในคอนโด เชื่อแน่นอนว่าอยู่ใกล้กับเพื่อนบ้านแบบสนิทชิดเชื้อแน่นอน ฉะนั้นเราก็ควรดูแลทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจจะก่อความรำคาญหรือผลเสียต่อเพื่อนบ้านรอบข้างได้ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นเหม็นจากฉี่ หรือมูลสัตว์  เสียงเห่า  หรือหอนของน้องหมา  ถ้าจะเลี้ยงแล้วนอกจากคิดถึงตัวเองและน้องหมาของเราแล้ว  คนรอบข้างและพื้นที่ส่วนรวมก็สำคัญมากๆ เพราะถ้าหากเราเลี้ยงน้องหมาด้วยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อย่างเช่น ปล่อยสุนัขไปขับถ่ายในพื้นที่ส่วนรวม โดยตัวเจ้าของเห็นดีด้วยไม่ห้ามอะไรเลย อาจก่อให้เกิดปัญหาผิดใจกับเพื่อนบ้านรอบๆ ข้างได้ค่ะ และอาจทำให้ไม่สามารถเลี้ยงเค้าได้ในระยะยาวต่อไปนั่นเอง 



  3. พาน้องหมาออกสังคมบ้าง น้องหมาของเราก็เหมือนคนนั่นล่ะค่ะ เค้าก็ต้องการสังคมพบปะโรคภายนอกบ้าง   บางครั้งการอยู่แต่ในห้องตลอดเวลาอาจจะส่งผลให้เกิดความเครียดได้ง่าย อาจจะพาเค้าออกมาข้างนอกบ้างเป็นครั้งคราวให้ชีวิตไม่น่าเบื่อจนเกินไป  และชินกับสังคมภายนอก อาจพามาเดินเล่น หรือออกกำลังกาย  ถ้าเป็นคอนโดแนะนำว่าควรจะอยู่ชั้นที่ไม่สูงมาก เพื่อเป็นการสะดวกต่อการพาน้องหมาขึ้นลง หรือบางทีน้องหมาอาจจะซนจะได้ไม่เป็นอันตรายต่อการพลัดตกลงมาได้ค่ะ 
  4. การฝึกฝนคำสั่ง จากที่มีพื้นที่จำกัด  ดังนั้นเราควรจะฝึกเรื่องการขับถ่าย อย่างเป็นที่เป็นทาง ให้เค้า เพื่อสุขอนามัยที่ดีต่อตัวน้องหมา และไม่เป็นปัญหาต่อตัวเจ้าของเองด้วยค่ะ รวมทั้งอาจฝึกคำสั่งอื่นๆ พื้นฐานที่ง่ายต่อการดำเนินชีวิต ซึ่งถือว่าเป็นการใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกับน้องอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ค่ะ
  5. รักษาความสะอาด และดูแลสุขภาพน้องหมา รวมถึงเห็บหมัดต่างๆ ควรหมั่นป้องกันอยู่เสมอ มีการทำความสะอาด อาบน้ำ  แปรงขน หวีขนอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะน้องหมาพันธุ์ขนยาว
        เห็นมั้ยคะว่าถึงแม้จะมีเพียงแค่พื้นที่เล็กๆ เราก็สามารถมีน้องหมามาอยู่ด้วยได้ไม่ยากเลย แต่ถ้าใครไม่พร้อมสำหรับเลี้ยงน้องหมา หรือทางคอนโดมีกฏห้ามเลี้ยงน้องหมา ก็อาจจะหาสัตว์อย่างอื่นแก้เหงาไปก่อน อย่างเช่น หนูแฮมเตอร์ ปลา แทนได้ค่ะ แต่จำไว้เพียงว่าเราควรพร้อมที่จะเลี้ยงเค้าอย่างจริงจัง  มีการเลือกอย่างเหมาะสม  และมีการดูแลเอาใจใส่ที่ดี  รับรองว่ามีความสุขทั้งคนและน้องหมาแน่นอนค่ะ ^^ 

Written by Webmaster
Published on 24 September 2015
สพ.ญ.นนท์นฤน เกิดสุข
สพ.ญ.นนท์นฤน เกิดสุข
อายุรกรรมทั่วไป
ผู้สนับสนุนบทความ
• ด้านล่างเป็นเพียงส่วนของการคอมเม้นบทความเท่านั้น หากท่านต้องการสอบถามปัญหาสุขภาพสัตว์เลี้ยง กรุณาเข้าไปที่ http://www.facebook.com/odaijinipet และส่งข้อความเข้าสอบถามใน Inbox ท่านจะได้การตอบกลับโดยเร็วที่สุด และหากเป็นเรื่องเร่งด่วนอยากได้คำตอบโดยเร็วโทรสอบถามได้ที่ 02-9485099 ขอบคุณค่ะ :)