เจ้าของน้องหมาหลายๆ คนมักเข้าใจผิดว่าการออกกำลังกายนั้น เราจะเริ่มต้น และให้ความสำคัญก็ต่อเมื่อน้องหมาของเรานั้นเริ่มที่มีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป หรือเมื่อโรคอ้วนถามหาแล้วเท่านั้นค่ะ ขอปรับความเข้าใจใหม่เป็นแบบนี้ค่ะ ว่าการออกกำลังกายนั้นสามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย ทุกช่วงน้ำหนักตัว ไม่จำกัดแม้กระทั่งสายพันธุ์ด้วยค่ะ และที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือ ควรที่จะหมั่นพาเค้าไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยนะคะ ไม่ใช่นานๆ ทีเหมือนตัวหมอเองค่ะ อันนี้ไม่แนะนำ 555555555 ส่วนเหตุผลที่ทำไม?? น้องหมาของเราควรที่จะต้องออกกำลังกายนั้น ตอบได้ไม่ยากเลย ก็เหมือนกับคนเรานั้นละค่ะ ก็เพื่อสุขภาพที่ดี และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้อีกด้วย แถมยังส่งผลต่อสุขภาพจิตใจที่ดี เพราะการออกกำลังกายจะช่วยลดความเครียดและความก้าวร้าวของเค้าลงไปได้นั่นเองค่ะ
ออกกำลังกายอย่างไรให้เหมาะสม?
คำถามยอดฮิตตลอดกาล คำถามที่เหมือนจะง่าย แต่การปฏิบัติจริงนั้นไม่ง่ายเอาซะเลยค่ะ เพราะการออกกำลังกายของน้องหมาเรานั้น ไม่ใช่ว่าเราอยากจะให้เค้า ออกกำลังกายแบบไหนก็พาเค้าออกได้เลยนะคะ เราควรเลือกอย่างเหมาะสม ซึ่งการออกกำลังกายในปัจจุบัน ไม่เพียงแค่หวังผลในเรื่องร่างกายเท่านั้น ยังมีบางกิจกรรมที่จะช่วยเสริม และพัฒนาในส่วนของจิตใจและสมองได้อีกด้วย โดยวิธีเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสมนั้น สิ่งที่เราต้องคำถึงมีเพียงแค่ 3 ข้อหลักๆ เท่านั้นเอง ดังนี้
- อายุ น้องหมาแต่ละช่วงอายุ ย่อมมีความแตกต่างในเรื่องของสรีระร่างกาย อารมณ์ และพฤติกรรม ดังนั้นการออกกำลังย่อมจะต้องแตกต่างกันตามไปด้วยค่ะ
- สายพันธุ์ น้องหมาเรามีทั้งสายพันธุ์เล็กและใหญ่ ด้วยขนาดตัวและพลังกำลัง การออกกำลังจะมีความแตกต่างกันตามไปด้วย
- สุขภาพร่างกายโดยทั่วไป น้องหมาบางตัวอาจจะมีโรคประจำตัว ที่อาจมีผลต่อการเลือกกิจกรรมสำหรับการออกกำลังกาย ว่าออกกำลังมากน้อยอย่างไร ให้เหมาะสมกับปัญหาสุขภาพ ซึ่งในข้อนี้ แนะนำว่าให้ปรึกษาสัตวแพทย์ประจำตัวเค้านะคะ
เห็นมั้ยค่ะ ว่าเพียงสามข้อเท่านั้นเองเราก็จะสามารถเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมให้น้องหมาของเราได้ออกกำลังกายอย่างมีความสุขและไม่ยากเกินความสามารถของเจ้าของแล้วค่ะ
การออกกำลังกายสามารถเริ่มได้ตั้งแต่เมื่อไร ?
ตอบได้เลยว่า เริ่มได้จากน้องหมาเด็กๆ อายุตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป ก็สามารถที่จะเริ่มออกกำลังกายกันได้แล้วค่ะ เพราะน้องหมาในวัยนี้กำลังเป็นช่วงกำลังเจริญเติบโต การออกกำลังกายในช่วงนี้ย่อมมีส่วนช่วยในเรื่องของระบบร่างกายต่างๆ ให้แข็งแรง มีการเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม รวมไปถึงช่วยพัฒนาการไหลเวียนของเลือดที่ส่งผลดีต่อหัวใจและร่างกายส่วนต่างๆ แต่อย่าเพิ่งหักโหมพาน้องหมาอายุน้อยๆ เหล่านี้ไปเล่นกันอย่างโลดโผนนะคะ เนื่องด้วยกระดูกน้องหมาที่ยังเด็กยังไม่เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์อาจทำให้เกิดปัญหาได้ค่ะ ส่วนกิจกรรมหรือการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับน้องหมาอายุน้อยๆ อาจใช้เพียงแค่สายจูง สำหรับการพาน้องหมาออกไปเดินเล่นหน้าบ้าน หรือสวนสาธารณะใกล้ๆ ลูกบอลหรือจานร่อนปาให้น้องหมาเราวิ่งเก็บไปมา หรือการซ่อนของเล็กๆ น้อยให้น้องหมาเราวิ่งหาก็เพียงพอแล้วค่ะอาจไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะมากแต่อาจจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิดสักหน่อย เพื่อความปลอดภัยของน้องหมาเรา นอกจากนั้นกิจกรรมที่อยากจะแนะนำสำหรับน้องหมาเด็กในช่วงนี้ อาจจะลองฝึกคำสั่งง่ายๆ ไปในตัว เช่น ลุก นั่ง คอย เป็นต้น เพื่อเป็นการฝึกควบคุมอารมณ์ และสมาธิควบคู่ไปกับการออกกำลังกายตั้งแต่เด็กไปในตัวได้อีกด้วยค่ะ
น้องหมาแต่ละพันธุ์ ต้องการการออกกำลังกายที่แตกต่างกันอย่างไร ?
ถ้าจะพูดถึงการออกกำลังกายของน้องหมาพันธุ์ใหญ่และเล็ก รับรองว่ามีความแตกต่างกันอย่างแน่นอนค่ะ เจ้าของน้องหมาแต่ละพันธุ์ควรใส่ใจรายละเอียดของน้องหมาพันธุ์ของตัวเอง เพื่อเลือกการออกกำลังกายให้อย่างเหมาะสมนะค่ะ
โดยปกติแล้วในน้องหมาพันธุ์เล็กย่อมมีพลังงานที่ต่ำกว่าน้องหมาพันธุ์ใหญ่อยู่แล้ว รวมถึงสรีระที่มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด การเลือกการออกกำลังกายสำหรับน้องหมาพันธุ์เล็ก อย่างเช่น น้องชิวาว่า น้องมอลทีส หรือพุดเดิ้ล อาจจะเป็นกิจกรรมที่เบาๆ ไม่หักโหมเกินไป แต่เน้นความสม่ำเสมอแทนค่ะ อาจจะเป็นการพาวิ่งเหยาะๆ การเล่นโยนลูกบอล หรือการเล่นซ่อนของ อย่างที่ได้กล่าวไปตอนข้างต้น โดยการใช้อุปกรณ์หรือของเล่นเข้ามาช่วยสำหรับน้องหมาพันธุ์เล็กนั้น ทางที่ดีเจ้าของอย่าลืมฝึกการรู้จักของเล่นของตัวเองให้น้องหมาด้วยนะคะ เพราะจะช่วยลดปัญหาการกัดแทะสิ่งของภายในบ้านแทนเจ้าของเล่นไปได้ค่ะ
ส่วนน้องหมาพันธุ์ใหญ่ การออกกำลังกายส่วนใหญ่มักจะเน้นการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและช่วยในการปลดปล่อยพลังงานเพื่อลดความเครียดและความก้าวร้าวไปในตัวค่ะ ซึ่งอาจจะเป็นการเน้นการเคลื่อนไหวค่อนข้างเยอะ อย่างเช่น การพาวิ่งไปพร้อมๆ กับการขี่จักรยานกับเจ้าของ การให้วิ่งข้ามสิ่งขีดขวางเตี้ยๆ หรือการพาไปว่ายน้ำ เป็นต้น ซึ่งการพาว่ายน้ำสามารถพาไปได้ทั้งน้องหมาพันธุ์เล็ก และพันธุ์ใหญ่เลย แต่อย่าลืมใส่ชูชีพทุกครั้งก่อนลงสระว่ายน้ำด้วย เพื่อความปลอดภัย หรือทางที่ดีหากเป็นกิจกรรมอย่างเช่น ว่ายน้ำ การเดินในลู่วิ่ง หรือการกระโดดข้ามสิ่งขีดขวาง
และกลุ่มน้องหมาอีกสายพันธุ์ที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ คือ เหล่าน้องหมาพันธุ์หน้าสั้นนะคะ อย่างเช่น ปั้ก หรือบลูด็อก เพราะเป็นน้องหมาที่เสี่ยงต่อการมีปัญหาของทางเดินหายใจค่อนข้างง่าย จึงไม่แนะนำการออกกำลังที่ใช้ระยะเวลานานๆ หนักหรือเหนื่อยเกินไปค่ะ เพราะอาจทำให้น้องหมาเหล่านี้หายใจไม่ทัน มีผลร่างกายเกิดการขาดออกซิเจน และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ
น้องหมาอายุต่างกัน ออกกำลังกายเหมือนกันหรือไม่ ?
ถ้าจะพูดถึงความเหมือนความต่างระหว่างการออกกำลังกาย ระหว่างน้องหมาพันธุ์เดียวกันแต่มีอายุต่างกัน เพราะด้วยสรีระทางร่างกายที่เหมือนกัน กิจกรรมสำหรับการออกกำลังกายอาจจะไม่แตกต่างกันมากนัก ส่วนที่น่าจะต่างกัน น่าจะเป็นส่วนของระยะเวลาที่ใช้ในการออกกำลังกายมากกว่า หากเป็นน้องหมาช่วงเด็กๆ หรือช่วงสูงวัย อาจจะเน้นการดูแลอย่างใกล้ชิด รวมถึงเวลาที่ใช้ออกกำลังกายอาจไม่มากหนักต่อวัน เพราะในน้องหมาเด็ก เป็นช่วงกำลังเจริญเติบโตบางอวัยวะอาจยังไม่แข็งแรงเท่าที่ควร หรือในน้องหมาสูงวัย ประสาทสัมผัสต่างๆ อาจเริ่มช้าลง หรือความเสื่อมต่างๆ ที่เริ่มเห็นได้ เช่น การเสื่อมของข้อสะโพก หรือสายตาฟ่าฟาง เป็นต้น ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขณะออกกำลังกายได้ง่าย ส่วนในเรื่องวิธีการออกกำลังกายสำหรับน้องหมาสูงวัยควรจะเป็นการออกกำลังกายที่เบาๆ หรือลดการลงน้ำหนักที่มากเกินไปค่ะ เพราะอาจจะทำให้เกิดการกระทบกระแทกบริเวณข้อกระดูกต่างๆ ที่มีโอกาสเสื่อมไปตามวัยได้ ดังนั้นวิธีที่เหมาะสม อาจจะเป็นการวิ่งเหยาะๆ บนสนามหญ้า(พื้น ที่ไม่ลื่นหรือแข็งเกินไป) หรือการว่ายน้ำสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง ก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีเลยทีเดียวค่ะ
ส่วนในน้องหมาที่กำลังอยู่ในช่วงโตเต็มวัย (น้องหมาพันธุ์เล็กเริ่มอยู่ที่ 7 – 8 เดือนขึ้นไป ส่วนน้องหมาพันธุ์ใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 18 – 24 เดือน) อาจเริ่มให้เวลากับการออกกำลังกายมากขึ้นหน่อย เวลาที่ใช้ควรมากกว่าในน้องหมาเด็กหรือสูงวัย แต่กิจกรรมที่เราสามารถนำประยุกต์สำหรับการออกกำลังกายก็เพิ่มขึ้นตามอายุไปด้วยค่ะ โดยในปัจจุบันที่นิยม คือ มีการพาไปว่ายน้ำ การเดินในลู่วิงน้ำ หรือการพาไปวิ่งตามสวนสาธารณะ ถึงแม้จะใช้เวลามากกว่า แต่รับรองว่าไม่เสียเวลาแน่นอน เพราะน้องจาก ได้ออกกำลังกาย อาจเป็นการเพิ่มสังคมให้กับน้องหมาเราอีกด้วย นอกจากนั้นน้องหมาช่วงโตเต็มวัยโดยเฉพาะน้องหมาพันธ์ใหญ่ เรื่องของพฤติกรรมเริ่มมีเปลี่ยนแปลงในช่วงวัยรุ่นด้วยอิทธิพลของฮอร์โมน อาจต้องการที่จะปลดปล่อยพลังงานภายในร่างกายที่ค่อนข้างสูง การออกกำลังกายจึงเป็นผลดีในเรื่องการลดความก้าวร้าวและสุขภาพที่ดีไปพร้อมๆ กันค่ะ และต้องระมัดระวังอย่ารีบพาน้องหมาไปออกกำลังกายทันทีหลังทานอาหารเสร็จเป็นอันขาด เพราะอาจจะมีผลเสียต่อระบบย่อยอาหาร ที่อาจเกิดให้เกิดแก๊สในกระเพาะ หรือโรคกระเพาะบิดซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ
ก่อนที่จะออกกำลังกาย…
สิ่งที่ต้องคำนึงถึง 3 ข้อหลักที่กล่าวโดยข้างต้น ที่ได้แก่ อายุ พันธุ์ และสุขภาพร่างกายโดยทั่วไป เพื่อความแน่ใจและปลอดภัยก่อนจะเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจังโดยเฉพาะน้องหมาที่มีอายุแล้ว แนะนำให้ไปปรึกษากับสัตวแพทย์ประจำตัวสัตว์เลี้ยง เพื่อตรวจร่างกาย หาปัญหาสุขภาพก่อนจะเป็นการดีนะค่ะ หากมีปัญหาอะไร จะได้เลือกกิจกรรมการออกกำลังกายได้อย่างเหมาะสมและไม่หักโหมจนเกินไป และหากเป็นการออกกำลังกายที่ออกไปภายนอกบ้าน อย่าลืมสายจูงเพื่อดูแลน้องหมาของเราไม่ให้หายไปไหน ระวังรถกันด้วยนะคะ
ส่วนระยะเวลาออกกำลังกายคือไม่มากหรือน้อยเกินไป ประมาณ 30 นาที ถึง 1 – 2 ชั่วโมงขึ้นกับขนาดตัวและพันธุ์ของน้องหมาด้วยค่ะ หากเป็นน้องหมาพันธุ์ใหญ่หรือน้องหมาที่มีระดับพลังงานในตัวค่อนข้าวสูง เช่น โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ เกรทเดน หรือเชพเพิร์ด ย่อมต้องใช้เวลามากกว่าน้องหมาพันธุ์เล็กอย่างหนูน้อยชิวาว่าเป็นแน่ และนอกจากนั้น การเริ่มออกกำลังกายควรเริ่มอย่างค่อยไปค่อยไป ก่อนออกกำลังกายควรมีการเตรียมความพร้อม วอร์มอัพร่างกายน้องหมาให้พร้อม (เริ่มจากน้อยๆ ไปมาก ไม่ใช่เริ่มก็หนักเลยนะคะ) เพื่อที่จะไม่เป็นการหักโหม และอาจมีผลต่อสภาพของร่างกายของเค้าได้ อย่าลืม การออกกำลังกายที่ดีนอกจากจะเลือกกิจกรรมที่ดีและเหมาะสมแล้ว ยังต้องอาศัยความสม่ำเสมอของเจ้าของอีกด้วย วันๆ หนึ่งอาจจะใช้เวลาไม่นานมาก แต่ควรทำเป็นประจำทุกวัน รับรองค่ะ ว่าสุขภาพดีทั้งน้องหมาและเจ้าของแน่นอน คุณหมอ รับประกัน…
เฟรนซ์ บลูด็อก และ น้องปั๊ก น้องหมาจอมขี้เกียจทั้งสองพันธุ์ นิสัยเรียบร้อย รักความสงบ แถมยังรักเด็กอีกด้วยค่ะ เป็นพวกนิ่งเป็นหลับ ขยับเป็นกิน (ขอเตือนว่าอย่าตามใจกันมากไปนะคะ โรคอ้วนจะถามหา และมีผลต่อสุขภาพ เช่น การหายใจลำบากตามมาได้ จากที่เป็นน้องหมาพันธุ์หน้าสั้นนั่นเองค่ะ) รับรองนอนนิ่ง นั่งนิ่งไม่กวนใจ ไม่หนีไปไหนแน่นอนค่ะ แต่สิ่งที่ต้องระวังซักหน่อย ก็คือ การที่เป็นน้องหมาพันธุ์หน้าสั้น ที่อาจจะเหนื่อยง่าย หายใจไม่ทันเอาได้ นอกจากปัญหาในระบบทางเดินหายใจแล้ว อย่าลืมที่เอาใจใส่ในเรื่องสุขภาพอื่นๆ ด้วยนะคะ อย่างเช่น เรื่องโรคผิวหนัง และเรื่องของตาค่ะ แต่ถ้าใครยังไม่ถูกใจในขนาดที่เล็กไป อาจจะขยับไปเลือกเจ้าอิงลิชบลูกด็อกทดแทนกันได้นะคะ ทั้งนิสัยใจคอพื้นที่การเลี้ยง ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่เลยค่ะ ส่วนการดูและความสะอาดก็ไม่ยากอีกเช่นกัน เพราะเป็นน้องหมาพันธุ์ขนสั้น ง่ายต่อการดูแลหายห่วง แต่ระวังเรื่องขนร่วง กลิ่น และโรคผิวหนังเป็นพิเศษหน่อยนะคะ
ใครว่าพื้นที่เล็กๆ จะเลี้ยงน้องหมาที่ขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยไม่ได้ พันธุ์ที่ติดโพลในการเลี้ยงเลย ได้แก่ น้องหมาพันธุ์เกรยฮาวน์ แค่ชื่อก็รู้ว่าเป็นนักวิ่ง แต่รับรองว่าถ้าอยู่ภายในห้องเค้าจะนอนเงียบๆ สามารถอยู่ในที่แคบๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา นั่งนอนบนเตียงหรือโซฟาได้อย่างสบายๆ แถมยังไม่เห่าถ้าไม่จำเป็นอีกด้วยนะคะ แต่ด้วยสายพันธุ์ของเค้าต้องไม่ลืมที่จะพาเค้าไปวิ่งหรือเดินออกกำลังกายทุกวันด้วยนะคะ แต่ถ้าชอบพันธุ์ประมาณนี้แล้ว แต่ติดที่ขนาดตัวใหญ่ซักหน่อย ก็อาจเลือกน้องหมาตระกูลเดียวกันแต่ขนาดเล็กกว่าได้ อย่างเจ้า วิปเพต แทนกันก็ได้นะคะ
มาถึงน้องหมาขนาดใหญ่มากที่จะแนะนำ ที่ดูยังไหงยังไงก็ไม่น่าจะอยู่ในพื้นที่เล็กๆ ได้ อย่างเจ้าเกรทเดน เซนต์เบอร์นาร์ด หรือเจ้าเยอรมัน เชพเพิร์ด น้องหมาพันธุ์เหล่านี้อาจจะต้องเขยิบขึ้นมาสำหรับเจ้าของที่มีห้องที่ใหญ่ขึ้นมาอีกซักหน่อย ก็จะเพียงพอต่อขนาดตัวเค้าแล้วค่ะ แต่รับรองว่าไม่ถึงกับต้องใหญ่มากก็เลี้ยงได้ เพราะเป็นหมาพันธุ์ที่ค่อนข้างรักสงบ ไม่เห่าหอนถ้าไม่จำเป็น แต่อาจจะต้องฝึกฝนสักหน่อยให้เค้าเชื่อฟังคำสั่ง และรู้จักที่ทางจะได้ไม่เป็นปัญหาขึ้นมาภายหลังค่ะ
สำหรับน้องหมาพันธุ์เล็กอย่างเจ้ายอร์คเชียร์เทอร์เรีย หรือ มอลทีส ก็เหมาะสำหรับการเลี้ยงไม่แพ้กันค่ะ เพราะนอกจากหน้าตาจะน่ารัก และขนาดที่พอเหมาะแล้ว นิสัยของน้องหมาทั้งสองพันธุ์นี้ก็น่ารักไม่แพ้กันตามไปด้วยค่ะ รวมทั้งความสะอาดในตัวน้องก็ง่ายต่อการดูแล เพราะถึงแม้จะเป็นน้องหมาพันธุ์ที่ขนไม่ถึงกับสั้น แต่ก็เป็นขนที่ไม่ร่วงเยอะจนเป็นปัญหาแน่นอนค่ะ เพราะเป็นขนยาวชั้นเดียว ถ้าหมั่นคอยหวีหรือดูและความสะอาด รับรองห้องหรือบ้านของเราไม่มีขนฟุ้งกระจายให้รำคาญใจคะ
พันธุ์หมาที่ยกตัวอย่างอาจะเป็นแค่บางพันธุ์ที่นิยมกันแพร่หลายในประเทศไทย อาจจะยังมีพันธุ์อื่นๆ ที่สามารถเลี้ยงได้แต่ไม่ได้กล่าวถึง หากเจ้าของคนไหนสนใจพันธุ์อื่นๆ เป็นพิเศษ สามารถขอคำปรึกษาหมอได้ตลอดเลยนะคะ ผ่านทางเฟสบุ๊คของโรงพยาบาลก็ได้เลยค่ะ
เลี้ยงน้องหมาอย่างไรให้เค้ามีความสุข?
- ให้ความรักดูแลเอาใจใส่ ข้อนี้ถือเป็นข้อสำคัญนะคะ ไม่ว่าจะเลี้ยงที่ไหนก็ตามจะพื้นที่เล็กหรือใหญ่ เจ้าของทุกคนก็ควรจะมีข้อนี้ ถึงแม้จะเลี้ยงหมาพันธุ์ที่เลี้ยงง่ายก็ตาม ก็ไม่ควรจะทิ้งเค้าให้อยู่คนเดียวอยู่บ่อยๆ หมั่นดูแลในทุกๆ เรื่องของน้องหมา ทั้งเรื่องอาหาร สุขภาพ ความสะอาด เป็นต้น รวมถึงเจ้าของทุกคนควรมีเวลาทำกิจกรรมร่วมกันกับน้องหมา หรือพาไปออกกำลังกายทุกวัน (ข้อนี้แนะนำว่าควรทำเป็นประจำนะคะ) เพราะหากเราปล่อยน้องหมาของเราไว้เพียงลำพังบ่อยๆ ระวังโรคซึมเศร้าจะถามหาน้องหมาของเราได้นะคะ
- รับผิดชอบต่อส่วนรวม เนื่องด้วยการเลี้ยงของเราอยู่ในพื้นที่เล็ก หรือเป็นพื้นที่ภายในคอนโด เชื่อแน่นอนว่าอยู่ใกล้กับเพื่อนบ้านแบบสนิทชิดเชื้อแน่นอน ฉะนั้นเราก็ควรดูแลทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจจะก่อความรำคาญหรือผลเสียต่อเพื่อนบ้านรอบข้างได้ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นเหม็นจากฉี่ หรือมูลสัตว์ เสียงเห่า หรือหอนของน้องหมา ถ้าจะเลี้ยงแล้วนอกจากคิดถึงตัวเองและน้องหมาของเราแล้ว คนรอบข้างและพื้นที่ส่วนรวมก็สำคัญมากๆ เพราะถ้าหากเราเลี้ยงน้องหมาด้วยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อย่างเช่น ปล่อยสุนัขไปขับถ่ายในพื้นที่ส่วนรวม โดยตัวเจ้าของเห็นดีด้วยไม่ห้ามอะไรเลย อาจก่อให้เกิดปัญหาผิดใจกับเพื่อนบ้านรอบๆ ข้างได้ค่ะ และอาจทำให้ไม่สามารถเลี้ยงเค้าได้ในระยะยาวต่อไปนั่นเอง
- พาน้องหมาออกสังคมบ้าง น้องหมาของเราก็เหมือนคนนั่นล่ะค่ะ เค้าก็ต้องการสังคมพบปะโรคภายนอกบ้าง บางครั้งการอยู่แต่ในห้องตลอดเวลาอาจจะส่งผลให้เกิดความเครียดได้ง่าย อาจจะพาเค้าออกมาข้างนอกบ้างเป็นครั้งคราวให้ชีวิตไม่น่าเบื่อจนเกินไป และชินกับสังคมภายนอก อาจพามาเดินเล่น หรือออกกำลังกาย ถ้าเป็นคอนโดแนะนำว่าควรจะอยู่ชั้นที่ไม่สูงมาก เพื่อเป็นการสะดวกต่อการพาน้องหมาขึ้นลง หรือบางทีน้องหมาอาจจะซนจะได้ไม่เป็นอันตรายต่อการพลัดตกลงมาได้ค่ะ
- การฝึกฝนคำสั่ง จากที่มีพื้นที่จำกัด ดังนั้นเราควรจะฝึกเรื่องการขับถ่าย อย่างเป็นที่เป็นทาง ให้เค้า เพื่อสุขอนามัยที่ดีต่อตัวน้องหมา และไม่เป็นปัญหาต่อตัวเจ้าของเองด้วยค่ะ รวมทั้งอาจฝึกคำสั่งอื่นๆ พื้นฐานที่ง่ายต่อการดำเนินชีวิต ซึ่งถือว่าเป็นการใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกับน้องอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ค่ะ
- รักษาความสะอาด และดูแลสุขภาพน้องหมา รวมถึงเห็บหมัดต่างๆ ควรหมั่นป้องกันอยู่เสมอ มีการทำความสะอาด อาบน้ำ แปรงขน หวีขนอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะน้องหมาพันธุ์ขนยาว
เห็นมั้ยคะว่าถึงแม้จะมีเพียงแค่พื้นที่เล็กๆ เราก็สามารถมีน้องหมามาอยู่ด้วยได้ไม่ยากเลย แต่ถ้าใครไม่พร้อมสำหรับเลี้ยงน้องหมา หรือทางคอนโดมีกฏห้ามเลี้ยงน้องหมา ก็อาจจะหาสัตว์อย่างอื่นแก้เหงาไปก่อน อย่างเช่น หนูแฮมเตอร์ ปลา แทนได้ค่ะ แต่จำไว้เพียงว่าเราควรพร้อมที่จะเลี้ยงเค้าอย่างจริงจัง มีการเลือกอย่างเหมาะสม และมีการดูแลเอาใจใส่ที่ดี รับรองว่ามีความสุขทั้งคนและน้องหมาแน่นอนค่ะ ^^