เมื่อน้องหมาที่รักขนร่วง ทำยังไงดีน้า…

เจ้าของน้องหมาหลายๆ คนคงมักปวดหัวไปกับปัญหาความสวยความงามของน้องหมากันใช่มั้ยคะ จะเป็นอื่นไปไม่ได้เลยนอกจากปัญหาเกี่ยวกับขนนั่นเอง วันนี้จะขอพูดถึงปัญหาขนร่วง ปกติถ้ามีขนร่วงบ้างนิดๆ หน่อยๆ ก็คงจะเป็นแค่เรื่องธรรมดาที่สามารถเจอได้ทุกวันอยู่แล้วนะคะ แต่ถ้าหากว่าพบเจอกันว่าน้องหมามีขนร่วงมากเกินไป ชักสงสัยแล้วสิว่าต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน

เมื่อน้องหมาที่รักขนร่วง ทำยังไงดีน้า…

      

 เจ้าของน้องหมาหลายๆ คนคงมักปวดหัวไปกับปัญหาความสวยความงามของน้องหมากันใช่มั้ยคะ จะเป็นอื่นไปไม่ได้เลยนอกจากปัญหาเกี่ยวกับขนนั่นเอง วันนี้จะขอพูดถึงปัญหาขนร่วง ปกติถ้ามีขนร่วงบ้างนิดๆ หน่อยๆ ก็คงจะเป็นแค่เรื่องธรรมดาที่สามารถเจอได้ทุกวันอยู่แล้วนะคะ แต่ถ้าหากว่าพบเจอกันว่าน้องหมามีขนร่วงมากเกินไป ชักสงสัยแล้วสิว่าต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน หันไปดูหน้าน้องหมาตัวดี เปลี่ยนไปราวกับคนละตัว ขนที่เคยสวยกลับร่วงหายไป ไม่ว่าจะร่วงทั้งตัว หรือร่วงเป็นหย่อมๆ ก็น่ากังวลทั้งนั้นจริงมั้ยคะ งั้นวันนี้เรามาหาคำตอบกันดีกว่าค่ะ ว่าสาเหตุแท้จริงของปัญหาขนร่วงนี้มาจากอะไรได้บ้างค่ะ  

เริ่มจาก….  ขนร่วงจริงๆ หรือเพียงแค่เป็นฤดูของการผลัดขน

 

        การผลัดขนเป็นเรื่องปกติของน้องหมาทุกตัวอยู่แล้วค่ะ โดยจะเป็นการผลัดขนที่เป็นเซลล์ที่ตายแล้วออกไป จากนั้นจะมีขนใหม่ขึ้นมาแทนที่ โดยน้องหมาจะเริ่มผลัดขนตั้งแต่อายุประมาณ 3-4 เดือนขึ้นกับสายพันธุ์ หรืออาจมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อม พันธุกรรม หรือแม้แต่อาหารก็มีผลต่อการผลัดขนได้ทั้งนั้น โดยปกติแล้วน้องหมามักจะผลัดขนประมาณปีละ 1-2 ครั้ง หากเป็นน้องหมาตัวเมียมักจะผลัดขนในช่วงการเป็นสัด  จนอาจสังเกตได้ว่าการผลัดขนอาจมากกว่าตัวผู้หน่อย  คือ  ประมาณอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง  หรือ หากเป็นน้องหมาที่เลี้ยงเจอแสงแดดบ่อยหน่อยก็อาจพบว่า มีการผลัดขนมากกว่าปกติได้เช่นกันเพราะน้องหมาเหล่านี้ต้องการเพิ่มการระบายความร้อนนั่นเองค่ะ 

        วิธีสังเกตอย่างง่ายๆ หากจะเทียบความแตกต่าง นั่นก็คือ หากเป็นการผลัดขนโดยทั่วไปมักจะมีขนงอกใหม่มาแทนที่อาจจะใช้เวลา 1-2 เดือน ขนก็จะค่อยๆ ร่วงน้อยลงและมีขนใหม่ขึ้นมาแทนที่ แต่หากเป็นขนร่วงจริงๆ ที่มีสาเหตุมาจากปัญหาอื่นๆ อย่างเช่น จากการติดเชื้อทางผิวหนัง ฯลฯ มักจะสังเกตว่าจะมีรอยโรคของผิวหนังเพิ่มมาด้วย  หรืออาจพบว่ามีการคัน  ผิวหนังแดง หรือมีการขนร่วงเป็นหย่อมๆ 

        ข้อแนะนำสำหรับน้องหมาในช่วงผลัดขน หากเจ้าของไม่อยากให้มีขนร่วงตามบริเวณบ้านให้ยากต่อการดูแล แนะนำให้ช่วยหวี หรือสางขนให้เค้าเป็นประจำ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อช่วยกระตุ้นการผลัดขนให้เร็วขึ้น รวมไปถึงจดรายละเอียดวันเวลาของการผลัดขน หรือการเป็นสัดในน้องหมาตัวเมีย จะได้ช่วยจดจำช่วงเวลาในการผลัดขน เผื่อไว้ใช้ประโยชน์เพื่อแยกแยะหากมีปัญหาขนร่วงเกิดขึ้นได้ค่ะ 

 

หากไม่ใช่การผลัดขนโดยธรรมชาติ แล้วอะไรเป็นสาเหตุของกันขนร่วงได้ล่ะ? มาหาคำตอบกันได้ดีกว่าค่ะ
  • ขนร่วงจากการติดเชื้อทางผิวหนัง

            เป็นปัจจัยแรกๆ ของสาเหตุที่พบได้บ่อยของปัญหาขนร่วง ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อจากแบคทีเรีย  เชื้อรา  หรือปรสิตภายนอก (เช่น เห็บ หมัด ขี้เรื้อนต่างๆ ) ล้วนแล้วแต่มีผลทำให้ขนร่วงทั้งนั้น โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากการดูแลความสะอาดที่ไม่ดีเพียงพอ  การป้องกันเห็บหมัดอย่างไม่ต่อเนื่อง  มีการอับชื้นเกิดขึ้น  หรือมีการติดเชื้อจากสิ่งแวดล้อม สัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ก็เป็นได้  ซึ่งรอยโรคจากการติดเชื้อนั้นอาจจะพบว่ามีคันร่วมด้วย หรืออาจเห็นขนร่วงเป็นหย่อมๆ หากพบเจอขนร่วงลักษณะนี้แนะนำให้พาไปให้สัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและหาหนทางรักษาที่ถูกต้องต่อไปค่ะ


  • ขนร่วงจากอาการแพ้

            หากไม่ใช่การผลัดขนแล้ว อาการแพ้ก็เป็นสาเหตุนึงที่น่าสงสัยเช่นเดียวกันค่ะ การแพ้ในที่นี้ อาจเป็นการแพ้อาหาร แพ้แชมพูอาบน้ำหรือแพ้สารเคมีอื่นๆ  ก็ได้ ทั้งนี้ รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่น้องหมาของเราไปสัมผัส อย่างเช่น หญ้า พื้นที่สกปรก ก็พบได้เช่นกัน ซึ่งหากสงสัยว่าขนร่วงจากสาเหตุนี้ คงต้องพาไปตรวจกับสัตวแพทย์ประจำตัวน้องหมาของเราก่อน และถ้าทราบแล้วว่าเค้าแพ้อะไร ก็จะสามารถหาทางหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้นั้นได้ค่ะ

  • ขนร่วงจากการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ

            เนื่องจากสารอาหารมีผลต่อเส้นขน และผิวหนังโดยตรง การได้รับสารอาหารที่คุณภาพต่ำ หรือทานอาหารไม่เพียงพอย่อมส่งผลต่อเส้นขน ที่อาจไม่เงางาม ขนแห้งได้ แนะนำให้กินอาหารที่ดีมีคุณภาพ หรือเป็นสูตรที่บำรุงขน  รวมถึงหากคิดว่าเค้าได้รับสารอาหารบางชนิดไม่เพียงพอแล้ว ก็สามารถรับประทานวิตามินบำรุงขนเสริมไปด้วยได้ แต่หากเป็น ในเรื่องของการทานวิตามินเพื่อบำรุง ก่อนรับประทานทุกครั้งควรปรึกษากับสัตวแพทย์ประจำตัวน้องหมาของเราก่อน เพื่อที่จะได้รับในปริมาณหรือขนาดที่เหมาะสมค่ะ

  • ขนร่วงจากอาการป่วย

            ไม่ว่าจะป่วยทางกาย (ด้วยโรคอื่นๆ เช่น โรคในระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ) หรือป่วยทางใจ (ความเครียดจากการขาดการดูแลเอาใจใส่) ก็มีผลต่อการขนร่วงได้ทั้งนั้น เพราะร่างกายของน้องหมาเรามักจะอ่อนแอกว่าปกติ การดูดซึมของสารอาหาร หรือแม้แต่การไหลเวียนเลือด การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายไม่ดี ก็อาจส่งผลออกมาที่เส้นขนได้  แม้แต่การเครียดของน้องหมาก็มีผลต่อขนได้คล้ายๆ คนที่เครียดแล้วมีผมร่วง น้องหมาเราก็ไม่ต่างกันค่ะ จะสังเกตได้ว่าหลังจากหายป่วยจากโรคอื่นๆ ที่ไม่ใช่โรคผิวหนังแล้ว ขนของน้องหมาก็จะร่วงน้อยลง และกลับมาดูดีขึ้นได้เหมือนเดิม เมื่อมีสุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้นนั่นเองค่ะ

  • ขนร่วงจากฮอร์โมน

            หนึ่งในปัจจัยที่อาจมีผลต่อการขนร่วง คือเรื่องความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกายน้องหมาค่ะ เช่น ฮอร์โมนเพศ ฮอร์โมนที่หลั่งจากต่อมหมวกไต เป็นต้น โดยมักเกิดจากการทานยาควบคุมฮอร์โมน เกิดจากโรคที่มีความผิดปกติของการสร้างฮอร์โมน หรือในช่วงหลังจากการทำหมัน อาจจะเห็นได้ชัดว่าน้องหมาของเราอาจมีสภาพเส้นขนที่เปลี่ยนแปลงไปได้

  • ขนร่วงโดยพันธุกรรม

            เนื่องจากน้องหมาที่เลี้ยงมีหลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน ย่อมเป็นไปได้ว่าขนที่ออกมาก็ต้องแตกต่างกันเป็นธรรมดา อย่าได้ริเอาน้องหมาของเราไปเปรียบเทียบกับพันธุ์อื่นๆ หรือตัวอื่นนะคะ ว่าตัวนั้นขนสวยจัง ขนฟูจัง ไม่สามารถเทียบกันได้เลย เพราะว่าน้องหมาแต่ละตัวย่อมได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อแม่พันธุ์ที่ต่างกัน หรือแม้แต่พ่อแม่เดียวกัน ขนก็อาจต่างกันได้  แต่อาจจะมีบางพันธุ์ที่มีความผิดปกติของพันธุกรรมโดยตรง อย่างเช่น  ปอมเมอเรเนียน ที่มักเป็นโรคผิวหนังอย่าง Alopecia X ที่มีสาเหตุจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต เป็นต้น ค่ะ



    โรค Alopecia X ในสุนัขพันธุ์ปอม



    ลักษณะขนปกติของพันธุ์ Chinese Crested

ทำยังไงให้น้องหมากลับมาขนสวยและดูดี

 

        ไม่ยากเลย เพียงแค่เจ้าของทราบสาเหตุของการขนร่วงก่อน  ย่อมมีหนทางสำหรับการแก้ปัญหานั่นๆ ได้อยู่แล้วแน่นอนค่ะ ขอยกตัวอย่างแค่เบื้องต้นให้เห็นภาพละกันนะคะ 

  • หากเป็นสาเหตุจากการติดเชื้อต่างๆ เช่น แบคทีเรีย  ยีสต์  เชื้อรา  หรือปรสิตภายนอก  หากให้คุณหมอตรวจแล้วพบว่าปัญหาเกิดจากอะไร ก็สามารถรักษาได้ด้วยการหยอดยา หรือ ทานยาฆ่าเชื้อที่ตรงกับเชื้อนั้นๆ อาจร่วมกับการใช้แชมพูยาที่เหมาะสมกับเชื้อนั้นๆ ได้นะคะ ทั้งนี้ขึ้นกับรอยโรคว่ามีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน
  • หากน้องหมาป่วย ซึม ร่วมกับขนร่วง  จะต้องตรวจร่างกาย ร่วมกับการตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุอื่นๆ อย่างเช่น ความผิดปกติของฮอร์โมน เพิ่มเติมร่วมด้วย และรักษาทั้งโรคที่เป็นอยู่หลัก และโรคที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวหนังที่เกิดร่วมด้วยค่ะ 
  • หากสงสัยการแพ้ อันนี้คุณหมอจะต้องใช้ประวัติจากเจ้าของร่วมด้วยช่วยกันสำหรับการวินิจฉัย  หากตัดสินใจเลี้ยงน้องหมาแล้ว เราควรดูแลใส่ใจจดจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ  เพราะอาจเป็นข้อมูลสำคัญทำให้ทราบได้ว่าน้องหมาของเราแพ้อะไรได้ค่ะ

นอกจากการรักษาที่ดีแล้ว การป้องกันที่ดี ก็สำคัญเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นข้อที่ง่ายมากๆ เลย

  • ดูแลเรื่องความสะอาดของน้องหมา ไม่ว่าจะการอาบน้ำ  บริเวณบ้าน  ที่อยู่  ที่นอน  ควรจะต้องสะอาดอยู่เสมอ รวมถึงการป้องกันดูแลเรื่องเห็บหมัดต่างๆ เพื่อช่วยป้องกันปัญหาผิวหนัง รวมถึงการติดเชื้ออื่นๆ ที่เกิดจากเห็บและหมัดได้ดีอีกด้วย
  • เรื่องอาหารการกิน ก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้น้องหมาของเรา แนะนำว่าทางที่ดีไม่ควรให้อาหารของคน แก่น้องหมาของเรา นอกจากสารอาหารอาจจะไม่ครบถ้วนแล้ว ยังอาจส่งผลต่อการแพ้อาหารได้อีกด้วย 
  • เรื่องสุขภาพร่างกายและจิตใจ อย่าปล่อยน้องหมาของเราให้มีความเครียดหรือป่วยเป็นระยะเวลานานโดยไม่ได้รับการรักษา หากปล่อยไว้นานเกินไปอาจมีผลเสียไม่ใช่เพียงแค่ขนร่วงเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อร่างกายระบบอื่นๆตามมาได้ค่ะ 

        เห็นมั้ยค่ะ ปัญหาเรื่องขนไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป ถ้าเจ้าของไม่แน่ใจหรือกังวล ทางที่ดีที่สุด คือ พาไปพบสัตวแพทย์ใกล้บ้าน เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของปัญหาขนร่วงของเค้าให้เจอ เพื่อได้รับการดูแล รักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม  ทั้งนี้ การรักษาปัญหาของขนอาจใช้ระยะเวลาการรักษาที่ยาวได้ในบางโรค เช่น เชื้อรา ฯลฯ  ให้คุณเจ้าของใจเย็นๆ และอดทนทำตามที่คุณหมอแนะนำนะคะ เพราะวงจรการงอกของเส้นขนจะอยู่ที่ประมาณ 21-28 วัน ดังนั้นกว่าจะเห็นผลอาจต้องใช้เวลากันสักหน่อยค่ะ 

 

แนะนำสำหรับคุณ

ค้นหา

สาขารามอินทรา (24 ชั่วโมง)

สาขากรุงเทพกรีฑา (08.00 - 22.00 น.)