รพ.สัตว์โอะไดจินิ | เปิด 24 ชั่วโมง

แย่แล้ว!!! ลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมือง...ทำไงดีล่ะ?


        คราวก่อน เราเคยคุยกันถึงเรื่องวิธีการเลี้ยงดูลูกสุนัขและลูกแมว ในชื่อเรื่อง "ทำอย่างไร เมื่อมีของขวัญดิ้นได้ อยู่หน้าประตูบ้าน"  แต่วันนี้หมอมีวิธีมาบอกเจ้าของที่ไม่อยากมีภาระที่บ้านเพิ่มเติมค่ะ  ถ้าเราไม่อยากให้เจ้าตัวน้อยของเรามีลูก มีวีธีจัดการอย่างไรบ้าง? โดยแต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ลองมาเลือกกันดูนะคะ ว่าคุณเจ้าของชอบวิธีไหนมากที่สุด

1. การฉีดยาคุมกำเนิดในสุนัขหรือแมวเพศเมีย  วิธีนี้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายจากเจ้าของสัตว์ เพราะเป็นวิธีที่ง่าย และราคาไม่แพงมากนัก แต่จะต้องพาไปฉีดยาอย่างต่อเนื่อง ถ้าพลาดไปสักครั้งนึง ก็มีโอกาสท้องได้ทุกเมื่อนะคะ ซึ่งการฉีดยาคุมกำเนิดต้องฉีดในระยะที่สุนัขไม่เป็นสัด คือ 

  • ช่วงหลังจากเป็นสัดแล้ว 2 เดือนแต่ไม่ควรเกิน 4 เดือน 
  • หรือหลังคลอดแต่ไม่ควรเกิน 4 เดือน  
  • หรือเริ่มฉีดเข็มแรกในช่วงที่สุนัขยังเด็กก่อนเริ่มเป็นสัดครั้งแรกคืออายุประมาณ 5-6 เดือน
        ดูแล้วค่อนข้างยุ่งยากใช่มั้ยคะ นอกจากนี้การฉีดยาคุมกำเนิดยังมี ข้อเสียคือ ถ้าฉีดไปนาน ๆ มีแนวโน้มเกิดภาวะมดลูกอักเสบ ตามมาได้ด้วย ซึ่งถ้าเป็นมดลูกอักเสบแล้ว ยังไงก็ต้องผ่าตัดเอามดลูกออก ไม่งั้นสัตว์เลี้ยงของเราจะมีการติดเชื้อรุนแรง จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ค่ะ

Picture1 : ในรูปแสดงคราบหนอง ไหลออกมาจากช่องคลอด เป็นอาการของมดลูกอักเสบ

Picture2 : มดลูกอักเสบ จากฟิล์มเอ็กซ์เรย์ พบว่ามดลูกมีขนาดใหญ่ขึ้น

Picture3 : ผ่าตัดเอามดลูกที่อักเสบออก

Picture4 : มดลูกอักเสบที่ภายในมีหนองอยู่เต็ม

2. การผ่าตัดทำหมัน สามารถทำได้ทั้งในเพศผู้ และเพศเมีย เป็นวิธีที่หมอๆ มักจะแนะนำเนื่องจาก เป็นวิธีที่สามารถคุมกำเนิดได้อย่างถาวร เนื่องจาก 

  • ใน ตัวผู้ เราจะผ่าตัดเอาลูกอัณฑะซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญในการสร้างอสุจิออกไปเลย  
  • ส่วนใน ตัวเมีย ก็จะผ่าตัดเอามดลูก และรังไข่ออกค่ะ  

        วิธีนี้มี ข้อเสีย ตรงที่การผ่าตัดจะต้องมีการวางยาสลบ ซึ่งการวางยาทุกครั้งจะมีความเสี่ยงต่อชีวิตสัตว์ 

        แต่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้ามากขึ้นค่ะ มีวิธีลดความเสี่ยงในขั้นตอนวางยาได้หลายอย่าง เช่น การตรวจสุขภาพก่อนผ่าตัด  การเลือกใช้ยาสลบที่มีระดับความปลอดภัยสูง เป็นต้น 

        นอกจากนี้คำถามที่มักถามกันบ่อย ๆ คือ ถ้าเลี้ยงทั้งตัวผู้และตัวเมีย จะทำหมันเพศไหนดีกว่ากัน ขอตอบเลยค่ะ ว่าถ้าเราสามารถควบคุมสุนัขเพศเมียไม่ให้หลุดออกไปนอกบ้าน หรือ มีสุนัขนอกบ้านหลุดเข้ามาผสมแล้ว  การทำหมันเพศผู้จะดีกว่า ง่ายกว่า  อันตรายน้อยกว่า รวมถึงใช้ระยะเวลาในการทำน้อยกว่าด้วย เนื่องจากการผ่าตัดทำอยู่บริเวณด้านนอกร่างกาย คือ ผ่าตัดเอาส่วนของลูกอัณฑะออก   ในขณะที่การทำหมันเพศเมีย จะต้องผ่าตัดเข้าไปในช่องท้อง เพื่อดึงเอามดลูกและรังไข่ออก จะใช้เวลาค่อนข้างนาน และมีความเสี่ยงในการเสียเลือดมากกว่าในเพศผู้ค่ะ แต่หากคุณเจ้าของไม่มั่นใจในเรื่องการควบคุมสุนัขเพศเมียของเราไม่ให้หลุดออกไป หรือมีสุนัขภายนอกบ้านหลุดเข้ามาแล้วล่ะก็ การทำหมันเพศมี จะเห็นผลได้ดีกว่า ไม่ท้องแน่นอนค่ะ ทั้งนี้ การทำหมันเพศเมีย ในช่วงก่อนที่เค้าจะเป็นสัดครั้งแรก ยังช่วยลดโอกาสการเป็นมะเร็งเต้านมในภายหลังได้ด้วยนะคะ 


Picture5 : การผ่าตัดทำหมันเพศเมีย

        การทำหมันยังเป็นการปรับพฤติกรรมบางอย่างของสัตว์เลี้ยงได้ด้วย เนื่องจากเราได้ผ่าตัดเอาอวัยวะที่เป็นตัวสร้างฮอร์โมนเพศออกไปค่ะ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจกันนะคะ ถ้าทำหมันเสร็จแล้ว เจ้าตัวยุ่งที่บ้านจะดูเรียบร้อยมากกว่าปกติ...   

        อ้อ! หมอลืมไปค่ะ ยังมีคำถามยอดฮิตอีกอย่างที่คุณเจ้าของชอบถาม และดูเป็นกังวลมาก นั่นก็คือ หลังจากทำหมัน น้องจะอ้วนขึ้นกว่าเดิมมั้ย อย่างที่บอกนะคะ ว่าการทำหมันเป็นการผ่าตัดเอาอวัยวะที่ผลิตฮอร์โมนเพศออกไป ซึ่งฮอร์โมนเพศ เป็นฮอร์โมนที่ทำให้สัตว์มีความกระตือรือร้น สัตว์เลี้ยงของเราจะเรียบร้อยขึ้น  อาจนอนเยอะขึ้น ซึ่งถ้าเราให้กินอาหารเท่าเดิม ก็อาจทำให้อ้วนขึ้นได้ค่ะ เพราะฉะนั้น หลังจากทำหมันแล้ว แนะนำให้ควบคุมอาหาร อาจใช้เป็นอาหารสำหรับสุนัขและแมวทำหมัน แล้วก็พาเด็ก ๆ ออกไปวิ่งเล่นบ้าง เพียงเท่านี้ สุนัขและแมวของเราก็มีสุขภาพดี แข็งแรงสมบูรณ์ และไม่อ้วนได้ค่ะ        

3. การใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น การใช้กางเกงป้องกันปัจจุบันมีการออกแบบกางเกงพิเศษที่ใช้ ปกป้องอวัยวะเพศของสุนัขเพศเมียไม่ให้ถูกสุนัขตัวผู้ผสมได้เหมือนจะเป็นวิธีที่ง่าย และสะดวกที่สุดนะคะ แต่วิธีนี้ก็มี ข้อเสีย คือ ต้องหมั่นทำความสะอาดเพราะเค้าอาจทั้งฉี่เลอะ และมีเลือดเป็นเมือกๆ ขับออกมาได้ในระยะที่เป็นสัดนั่นเอง  หรือในเด็กๆ ตัวที่ซนมากๆ กางเกงอาจถูกกัดขาดออกไปเมื่อไหร่ก็ได้ และอาจถูกตัวผู้ขึ้นผสมได้ ทำให้การคุมกำเนิดของเราล้มเหลวไม่เป็นท่าเลยทีเดียวค่ะ

        สุดท้ายนี้อยากฝากเอาไว้ถึงคุณเจ้าของทุก ๆ ท่านนะคะ ถ้าเราไม่พร้อมจะดูแลสิ่งมีชีวิตที่จะเกิดขึ้นใหม่ ไม่ว่าจะในด้านใดก็ตาม ให้พาเค้าไปคุมกำเนิดดีกว่า เพื่อลดปัญหาสุนัข และแมวโดนทิ้ง ซึ่งในปัจจุบันเห็นว่ามีเยอะมากๆ ถือซะว่าสงสารน้องหมาน้องแมวตาดำ ๆ ละกันค่ะ ^^



มีลูกมากจะยากจนนะคะ ^^


รูปจาก : zooborns.com


Written by Webmaster
Published on 6 December 2012
ทีมสัตวแพทย์ประจำ
โรงพยาบาลสัตว์โอะไดจินิ
ผู้สนับสนุนบทความ
• ด้านล่างเป็นเพียงส่วนของการคอมเม้นบทความเท่านั้น หากท่านต้องการสอบถามปัญหาสุขภาพสัตว์เลี้ยง กรุณาเข้าไปที่ http://www.facebook.com/odaijinipet และส่งข้อความเข้าสอบถามใน Inbox ท่านจะได้การตอบกลับโดยเร็วที่สุด และหากเป็นเรื่องเร่งด่วนอยากได้คำตอบโดยเร็วโทรสอบถามได้ที่ 02-9485099 ขอบคุณค่ะ :)